สืบเนื่องจาก อบจ. ภูเก็ต ได้มีแผนยุทธศาสตร์และพันธกิจในการส่งเสริมศิลปวัฒนธรรม เพื่อนำทุนทางศิลปวัฒนธรรมมาเป็นปัจจัยในการเพิ่มมูลค่าทางเศรษฐกิจ สังคมและการท่องเที่ยว รวมทั้งได้มีนโยบายในการจัดทำหอศิลป์ภูเก็จขึ้น โดยอ้างอิงการวิจัยโดยวิทยานิพนธ์ของมหาวิทยาลัยศิลปากร เรื่องการบริหารจัดการหอศิลป์ของรัฐในประเทศไทย พบว่าการบริหารจัดการหอศิลป์ของรัฐควรที่จะมีรูปแบบการบริหารงานแบบอื่นที่ไม่ใช่ส่วนราชการ เพื่อความคล่องตัวและมีประสิทธิภาพในการดำเนินงาน มีการวางแผนการตลาดเพื่อตอบโจทย์ต่อกลุ่มเป้าหมายและให้ความสำคัญการให้บริการแก่สาธารณชนเป็นหลัก ทั้งในส่วนของการอำนวยความสะดวกและการจัดกิจกรรม
อบจ.ภูเก็ต และ สมาคมศิลป์ภูเก็จ (จากการรวมตัวกันของกลุ่มประชาชนผู้สนใจศิลปะ กลุ่มศิลปิน ซึ่งได้จัดกิจกรรมศิลปะร่วมสมัยในงานเทศกาล งานนิทรรศการ และอื่น ๆ มาโดยตลอด) จึงตกลงทำบันทึก MOU ในการบริหารจัดการหอศิลป์ภูเก็จ (The Phuket Gallery)
โดยมีรายละเอียดดัง คือ ทั้งสองฝ่ายมีความประสงค์ในความร่วมมือกันเพื่อส่งเสริมศิลปวัฒนธรรม เพื่อนำเอาทุนทางศิลปวัฒนธรรมมาเป็นปัจจัยในการเพิ่มมูลค่าทางเศรษฐกิจ สังคม และการท่องเที่ยว โดยจะได้บริหารจัดการหอศิลป์ภูเก็จให้เป็นหอศิลปะร่วมสมัย
ซึ่งจะทำหน้าที่ให้ความรู้ทางศิลปะ เก็บรวบรวมและหรือจัดแสดงผลงานศิลปะร่วมสมัย เพื่อเผยแพร่ผลงานศิลปะสู่สาธารณชน และส่งเสริมการทำงานของศิลปิน สร้างตลาดศิลปะ เพื่อให้ผลงานศิลปะในทุกแขนงสามารถเข้าถึงประชาชน และสร้างมูลค่าทางเศรษฐกิจและการท่องเที่ยวได้ รวมทั้งการบริหารจัดการหอศิลป์ภูเก็จให้เป็นแหล่งเรียนรู้ทางศิลปวัฒนธรรมสู่เยาวชน และชุมชน