สำหรับจังหวัดภูเก็ต ได้เสนอ 2 โครงการเร่งด่วนเพื่อแก้ปัญหาสิ่งแวดล้อมที่ส่งผลกระทบต่อภาพรวมเศรษฐกิจ ซึ่งเป็นพัฒนาต่อยอดเศรษฐกิจจังหวัดอย่างยั่งยืน ได้แก่ โครงการศูนย์กำจัดขยะมูลฝอยจังหวัดภูเก็ต โดย ทน.ภูเก็ตเป็นผู้ดูแลโครงการด้วยงบประมาณ 40 ล้านบาท แต่เสนอของบประมาณเพียง 35 ล้านบาท และโครงการก่อสร้างผนังกั้นน้ำคลองบางใหญ่ภายในโรงเรียนสตรีภูเก็ต โดย อบจ.ภูเก็ต เป็นผู้ดูแลโครงการด้วยงบประมาณ 26.5 ล้านบาท ซึ่งยื่นเสนองบประมาณเพียง 15 ล้านบาท โดย ผวจ.ภูเก็ตรายงานว่า จังหวัดภูเก็ตถือเป็นภาพลักษณ์การเป็นเมืองศูนย์กลางด้านเศรษฐกิจ การท่องเที่ยว การศึกษา และการลงทุน ที่ได้รับความเชื่อมั่นจากทั้งคนในประเทศและต่างประเทศเเละโครงการอื่นๆ ที่นำเสนอ อยากจะให้รัฐบาลผลักดันเพื่อดำเนินการส่งเสริมเมืองท่องเที่ยว
ส่วนจังหวัดระนอง ได้นำเสนอขอสนับสนุนงบประมาณโครงการปรับปรุงถนนและระบบสาธารณูปโภค พร้อมปรับภูมิทัศน์ถนนจัดสรรพัฒนา ต.บางริ้น อ.เมือง จ.ระนอง นอกจากนี้ ทั้งภาครัฐและภาคเอกชน 6 จังหวัด กลุ่มจังหวัดภาคใต้ฝั่งอันดามัน ได้นำเสนอโครงการภายใต้โครงการพัฒนาพื้นที่ อาทิ ท่าเรือเพื่อการท่องเที่ยว โครงสร้างพื้นฐาน การบริหารจัดการน้ำ การบริการทางการแพทย์ แนวทางการดำเนินงานขับเคลื่อนโครงการต่าง ๆ ที่นำเสนอต่อที่ประชุมของแต่ละพื้นที่
ทั้งนี้ นายปานปรีย์ พหิทธานุกร รองนายกรัฐมนตรีฯ ได้อนุมัติข้อเสนอโครงการของ 6 จังหวัดในกลุ่มจังหวัดภาคใต้ฝั่งอันดามัน รวมโครงการภาครัฐ 13 โครงการผ่านหมด โดยเฉพาะโครงการสำคัญที่มีความพร้อมและดำเนินการแล้วเสร็จภายใน 1 ปี หรือโครงการที่ต้องทำทันที ส่วนโครงการที่ภาคเอกชนนำเสนอจะมีการพิจารณาอีกครั้ง วงเงินรวมทั้งหมดทั้ง 20 โครงการ 797 ล้านบาท และได้เน้นย้ำทุกภาคส่วนให้ร่วมกันสร้างความเชื่อมั่น ความปลอดภัยและความมั่นใจให้กับนักท่องเที่ยว เพื่อเป็นการเสริมสร้างเศรษฐกิจจากการท่องเที่ยวอย่างมั่นคงและยั่งยืน โดยรัฐบาลมุ่งพัฒนาภาคใต้ให้เป็นศูนย์กลางการพัฒนาทางเศรษฐกิจ อุตสาหกรรม เกษตรกรรม โครงการพัฒนาโครงสร้างพื้นฐานและบริการด้านคมนาคม ส่งเสริมการขนส่งทางน้ำให้มีความทันสมัย และเพิ่มขีดความสามารถในการแข่งขันทางเศษฐกิจกับนานาประเทศ เพื่อขับเคลื่อนเศรษฐกิจเพิ่มมากขึ้น เพื่อให้การแก้ไขปัญหาของพี่น้องประชาชนได้รับการแก้ไขอย่างเป็นรูปธรรมต่อไป